นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (แฟ้มภาพ) |
วันนี้ (17 มิ.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า ตนเห็นว่า ข่าวกรณีสหรัฐฯขอใช้สนามบินอู่ตะเภา เพื่อเป็นฐานปฏิบัติการด้านภัยพิบัติและมนุษยธรรมนั้น ซึ่งต่อมามีการตั้งข้อสังเกตจากนักวิชาการ และสื่อมวลชน ว่า กรณีดังกล่าวอาจมีวาระแอบแฝง โดยอาจเป็นการยกสนามบินอู่ตะเภาให้สหรัฐฯใช้เป็นฐานปฏิบัติการทางทหารและสอดแนมด้านความมั่นคงในภูมิภาคนี้ เพื่อแลกกับวีซ่าเข้าสหรัฐฯของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และปลดล็อกแบล็กลิสต์ นางนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อนสูง และเป็นประเด็นอ่อนไหวมากในระดับสากล เพราะถ้าเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการทางทหารก็จะทำให้ไทยถูกลากเข้าไปอยู่ในสงครามก่อการร้ายสากล รวมทั้งความไม่สบายใจจากประเทศมหามิตรอย่างจีนด้วย
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า มีความจำเป็นมากที่นายกฯ ผบ.ทบ.และฝ่ายความมั่นคงไทยต้องแถลงจุดยืนและชี้แจงเรื่องนี้กับคนไทยอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่ปล่อยให้โฆษกที่ไร้ความน่าเชื่อถือออกมาปัดปฏิเสธ จีนสังคมเคลือบแคลงสงสัยแบบนี้เพราะถ้าเป็นปฏิบัติการด้านภัยพิบัติและมนุษยธรรมจริง ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรที่ต้องปิดบังหรือทำลับๆ ล่อๆ อย่างไรก็ตาม หากมีการดำเนินการเรื่องนี้จริงรัฐบาลต้องนำเรื่องเข้าหารือต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 เพื่อชี้แจงและขอความเห็นชอบจากรัฐสภาไทย ในขณะนี้เป็นที่น่าสังเกตุว่า มี พ.ร.ฎ.ปิดประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติในวันที่ 19 มิถุนายนนี้แล้ว แต่ยังไม่ปรากฏวาระหารือเรื่องนี้ในการประชุมสภาฯ นัดสุดท้าย ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่ารัฐบาลอาจลักไก่ลงนามอนุญาตให้สหรัฐใช้สนามบินอู่ตะเภาในช่วงปิดสมัยประชุมนี้ก็ได้
“หากมีการลักไก่ลงนามจริงก็แสดงว่าเรื่องนี้รัฐบาลไทยและสหรัฐมีวาระซ่อนเร้น มีผลประโยชน์แอบแฝง โดยเฉพาะความเป็นไปได้ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจเล่นบทเป็น “กองกำลังส่วนหน้าทำเนียบขาว” ยกเอาผลประโยชนของชาติโดยเฉพาะเรื่องพลังงานและยุทธศาสตร์ความมั่นคงในภูมิภาคนี้ไปแลกกับการสนับสนุนจากสหรัฐ เฉพาะหน้าคือวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐในช่วงปิดสมัยประชุม และแผนการดึงสหรัฐมาเป็นแบ็กอัพสงครามปรองดองในช่วงเปิดสมัยประชุมสามัญเดือนสิงหาคมนี้” นายสุริยะใส กล่าว...
www.manager.co.th : 17 มิถุนายน 2555 17:01 น.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น