วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

หากินกะคนตาย แก๊งแดง รุม ศพอากง ร้องแก้ กม.หมิ่น


มหกรรม “หากินกับศพ” หวังผลล้มกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเริ่มแล้ว “สุรชัย” ส่งจดหมายน้อยฝากญาติอากงตั้งศพอย่าเผา อ้างจนกว่าแก้ไข ม.112 ได้ ปชต.ที่แท้จริง “สมศักดิ์ เจียมฯ” บีบน้ำตา ซัดปล่อยคนแก่ตายในคุกไม่ตายดีแน่ “เกษียร” เอาด้วย ลั่นเอาสิทธิเสมอภาค-ศักดิ์ศรีอากงคืนมา

   วันนี้ (8 พ.ค.) หลังการเสียชีวิตของนายอำพล ตั้งนพคุณ อายุ 61 ปี หรือที่กลุ่มคนเสื้อแดงเรียกขานว่า
       “อากง” ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี 2550 ได้เสียชีวิตลงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังมีอาการปวดท้อง เนื่องจากคาดว่าน่าจะเป็นผลพวงจากอาการป่วยด้วยโรคมะเร็ง พบว่าในบรรดานักวิชาการและนักเคลื่อนไหวในเครือข่ายกลุ่มคนเสื้อแดงได้ฉวยโอกาสแสดงความไว้อาลัยนายอำพลไปพร้อมๆ กับการโจมตีกรณีการบังคับใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่อ้างว่าไม่เป็นธรรม และเรียกร้องให้มีการแก้ไขมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
       
       โดย นางปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ ภรรยาของนายสุรชัย แซ่ด่าน หรือด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม และผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในขณะนี้ ได้นำกระดาษโน้ตที่เขียนข้อความด้วยลายมือ ซึ่งอ้างว่าเขียนโดยนายสุรชัยหลังทราบข่าวมาให้ โดยระบุว่า “สุรชัย แซ่ด่าน ฝากบอกว่า เอาคนแก่คือ
       อากงมาขังจนเสียชีวิต ที่ตายก็เพราะ ม.112 การรักษาก็ไม่ทั่วถึง ปวดท้องมานานนับเดือน ขอประกันตัวออกไปรักษาตัวภายนอก ก็ไม่ให้ประกันตัว จนอาการหนักมากแล้วจึงส่งตัวไปรักษา อยากฝากบอกญาติและครอบครัวของอากงว่า ควรจะเอาศพอากงทำประโยชน์ต่อระบอบประชาธิปไตย เป็นครั้งสุดท้าย โดยตั้งศพต่อไปอย่าเพิ่งเผา จนกว่าจะมีการแก้ไข ม.112 และได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง” ลงชื่อ สุรชัย แซ่ด่าน วันที่ 8/5/55 ซึ่งจดหมายฉบับนี้ถูกส่งต่อในเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง
       



       ขณะเดียวกัน นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัย
       ธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก “สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล” ระบุว่า “มึงปล่อยให้มีการฆ่าประชาชนเป็นร้อยกลางเมือง โดยไม่สะดุ้งสะเทือน มึงปล่อยให้คนแก่ถูกขังคุก ตัดสินลงโทษให้หนัก ด้วยข้อหาและรูปคดีงี่เง่าจนเขาไปตายในคุก มึงเองไม่ตายดีแน่นอน”
       
       ก่อนหน้านี้นายสมศักดิ์ได้โพสต์ข้อความว่า “ผมเสียใจมาก ร้องไห้ออกมา แบบปล่อยโฮเลย ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักอากง มาก่อน เพิ่งโทร.คุยกับคุณป๋าจอม Nithiwat Wannasiri (นายนิธิวัติ วรรณศิริ หรือเต้ย อดีตกรรมการบริหาร สนนท.) ได้รายละเอียดเพิ่มอีกเล็กน้อย อากง มีอาการป่วยมาสักระยะหนึงแล้ว แต่ว่าระบบเรือนจำ การรักษาอะไรมันก็ไม่ดีเหมือนข้างนอก เห็นว่าสุดท้าย (ข้อมูลนี้คงต้องเช็กรายละเอียดอีกที นะครับ) ต้องไหว้วาน อ.หวาน Suda Rangkupan (นางสาวสุดา รังกุพันธุ์ อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ช่วยเดินเรื่องให้เข้าไปรักษาในโรงพยาบาลในเรือนจำ อากง เข้า รพ.ในเรือนจำ ตั้งแต่วันศุกร์ วันนี้เสียชีวิต แน่นอน ป้าอุ๊ (นางรสมาลิน ตั้งนพคุณ ภรรยานายอำพล) ไม่ได้อยู่ด้วยตอนอากงสิ้นใจ
       (โรงพยาบาลอยู่ในคุก คนนอกเข้าไปไม่ได้อยู่แล้ว) ป๋าจอม กำลังเดินทางเป็นเพื่อนไปกับป้าอุ๊ไปเรือนจำ”
       

       ส่วน นายเกษียร เตชะพีระ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก “Kasian Tejapira” พร้อมกับภาพที่นายอำพลยกมือไหว้ ระบุว่า “อากงจากไปแล้ว เราไม่อาจขอชีวิตอากงคืนมาได้ แต่มีบางอย่างที่เราทำได้ เอาสิทธิเสมอภาคและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของอากงคืนมาให้คนไทยทุกคน” และได้โพสต์ความเห็นต่อว่า “เฉพาะหน้า น่าจะเป็นสิทธิในการประกันตัวของผู้ต้องหาคดีการเมืองรวมทั้งคดี ม.112 ทั้งหมด ในนามความปรองดอง ที่มีการคืนสิทธิการเมืองแก่สมาชิกบ้านเลขที่ 111, ระยะกลาง คือผลักดันให้ร่างแก้ไข ม.112 เข้าสภา (ไม่ว่าผ่านหรือไม่ก็ตาม ให้มันเข้าสู่กระบวนการทางการของสภาผู้แทนราษฎร), และระยะยาวคือรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานทางอุดมการณ์ที่ทำให้สิทธิเสมอภาคและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของอากงและคนไทยอื่นๆ ในกรณีทำนองเดียวกันถูกเลือกปฏิบัติและกลายเป็นข้อยกเว้นของรัฐ”...



ขอขอบคุณที่มาของภาพและบทความ:
www.manager.co.th :8 พฤษภาคม 2555 18:11 น.


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น